“ในความคิดหนูนะ หนูว่าคนไทยชอบอะไรที่ถูก สบาย
ไม่ยุ่งยาก อย่างหนูขายทัวร์เที่ยวอย่างเนี๊ยะ
ถ้าราคา 1,999 บาท เขาจะโอเค
แต่ถ้าราคาเริ่มไปที่เลข 2 ไม่ว่าจะ 2,100 บาท เขาก็จะเริ่มคิดว่าแพงกันแระ.........แล้วอีกอย่างคนไทยมีวันหยุดน้อย ไม่เหมือนกับชาวต่างชาติที่เขามีวันหยุดยาวๆ
คนไทยก็เลยชอบอะไรที่ง่ายๆ สบายๆ”
………………………………….
นี่เป็นบทสนทนาบนเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามไปเกาะช้างระหว่างผู้เขียนกับน้องจอย
– กนกพร เหมะพันธ์
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ชั้นปีที่ 4
กับ “โครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ
คนไทยทำได้”
การมาเรียนดำน้ำครั้งนี้ถือเป็นการดำน้ำครั้งแรกของสาวๆ
ทั้ง 6 คน ที่มีคาแรกเตอร์ต่อเรื่องดำน้ำแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นประโยชน์หากจะเล่าให้อ่านกันสักเล็กน้อย
น้องจอย น้องเอ้ และ
น้องรัตน์ – ว่ายน้ำเป็น แต่จะพิเศษที่น้องจอยคือแพ้น้ำทะเลที่สกปรก ถ้าโดนเมื่อไรผื่นแดงขึ้นทุกที
น้องกลาง – คนนี้บ้านเกิดอยู่พังงา ติดทะเล
แต่ไม่เคยดำน้ำ
น้องยุ้ยและน้องบี
– ว่ายน้ำไม่เป็น แต่ก็มาร่วมเรียนดำน้ำด้วยกันในครั้งนี้
อะไรจะเกิดขึ้นกับสาวๆ ทั้ง 6 คน ที่มาเรียนดำน้ำด้วยกันเป็น....ครั้งแรก
!!!
ครู Sacha นัดหมายการเริ่มเรียนดำน้ำ 8 โมงเช้า โดยมีบอม , ใหม่
(นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาที่เดือนนี้เรียนถึงหลักสูตร Dive master แล้ว) ลงมาเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำให้เพื่อนๆ พร้อมแล้วตั้งแต่
7 โมงครึ่ง
เป้ง !!!! เวลา 8.00 น. ผู้เขียนเห็นแก็งค์สาวๆ มากินอาหารเช้าที่
Amari กันแต่เช้าแล้ว แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายที่สระว่ายน้ำ
อ้าว......หายไปไหนกันหมด !!!!!
ผู้เขียนโทรตาม “จอยอยู่ไหนกันแล้ว”
เสียงจอยจากปลายสายตอบว่า “อยู่บนห้องคะ เพื่อนๆ ไม่มั่นใจในรูปร่าง”
ผู้เขียน “…………”
มีอาการงงเล็กน้อย หยุดคิดก่อนจะตอบกลับไปเพื่อสร้างความมั่นใจกับสาวๆให้ได้มากที่สุด โดยตอบกลับไปว่า “ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องใส่ชุด wet suit กันอยู่แล้ว”
(คิดอยู่ในใจว่าประโยคนี้จะทำให้ทุกคนมั่นใจขึ้นได้ไหม
!!!)
เสียงน้องจอย “คะๆ เดี๋ยวลงไปเดี๋ยวนี้คะ”
..................................................
และทุกคนก็ปรากฏตัว ในอาการที่ไม่พร้อมทักทายใคร และไม่พร้อมให้ใครมาทักทาย
ครู Sacha เริ่มต้นด้วยการแจกชุด wet suit ให้ทุกคนไปใส่ก่อน
น้องๆ รีบนำชุดที่พอดีกับตัวเอง
เดินตรงรี่เข้าห้องน้ำพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
............................................
เงียบหายไปหลายนาที ผู้เขียนเริ่มมีอาการตงิดๆ เล็กน้อย
ขอเข้าไปดูแก็งค์สาวๆ สักหน่อย เมื่อเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น
!!!! เสียงพวกเธอดังลั่นกันอยู่ในห้องน้ำพร้อมด้วยความโกลาหล
กับ ชุด wet suit
“ใส่แบบใช่ป่าวอ่ะ” “ถูกด้านแล้วป่าว” “แบบนี้ใช่หรือเปล่าพี่เจน” .............
สารพัดคำถามเกี่ยวกับ wet suit
และในที่สุดแก็งค์สาวๆ
ก็ได้ก้าวออกมาจากห้องน้ำ
พร้อมกับการใส่ชุด wet suit ที่ถูกทาง
ใช่ !!!! พวกเธอพร้อมเรียนดำน้ำกันแล้ว
เยยยยยยยยยยยยยยยยยย้
!!!!
เริ่มต้นเรียนดำน้ำที่สระว่ายน้ำทุกคนดูมีอาการตื่นๆ
กันนิดหน่อย โดยเฉพาะน้องกลางที่ดูจะกลัวมากกว่าเพื่อน
เตรียมใส่อุปกรณ์ก่อนลงสระให้เรียบร้อย
ยุ้ยและบี สาวๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น แต่พอได้เรียนดำน้ำแล้ว ดำแทบไม่หยุด
ยุ้ย ลอยตัวโชว์คะ
ดูแลกันแบบตัวต่อตัว
หน้ากากมองเห็นกันไม่จ๊ะเพื่อน แบบนี้ต้องใช้ซันไลน์ (นักดำน้ำรู้จักกันดี สามารถใช้น้ำลายของเราก็ได้ เพื่อไม่ให้เกิดฝ้าที่หน้ากาก)
พร้อมแล้วลงทำแบบฝึกหัดใต้น้ำได้เลย
คนข้างหลัง...สู้ตายคะ
พร้อมแล้วเพื่อจะดำน้ำจริงที่ทะเล น้ำทะเลเกาะช้างใสมากกกกกกกกก มองเห็นตัวปลา
เตรียมพร้อมอุปกรณ์กันอีกครั้ง โดยมี ใหม่ (ณเดชน์) และ บอม (ปริญ) คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ
ญาญ่าเตรียมพร้อมไปดำน้ำ
หลังจากนั่นทุกคนก็ไปดำน้ำ
เสียดายที่ไม่มีกล้องถ่ายรูปใต้น้ำบันทึกภาพมาให้ดู
แต่เรื่องแบบนี้ต้องดูด้วย "สายตาของตัวเอง"
แล้วจะรู้ว่าโลกใต้น้ำมันสวยล้นเหลือขนาดไหน
กลับมาจากดำน้ำ พี่หลง กัปตันเรือของเรา ดำน้ำลงไปหยิบเจ้าตัวนี้มาให้ดู (ลืมชื่อเจ้าตัวนี้)
และทุกคนก็ผ่านการเรียนดำน้ำหลักสูตร Discover
scuba diving ไปได้ด้วยดี
ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างยิ่ง
บทสนทนาข้างต้นที่น้องจอยบอกไว้ เพราะผู้เขียนได้ถามไปว่า
“จอยคิดว่าทำไมคนไทยเรียนดำน้ำกันน้อยจัง”
น้องจอยเธอเลยแสดงความคิดว่า
“ในความคิดหนูนะ หนูว่าคนไทยชอบอะไรที่ถูก สบาย
ไม่ยุ่งยาก อย่างหนูขายทัวร์อย่างเนี๊ยะ
ถ้าราคา 1,999 บาท เขาจะโอเค
แต่ถ้าราคาเริ่มไปที่เลข 2 ไม่ว่าจะ 2,100 บาท เขาก็จะเริ่มคิดว่าแพงกันแระ.........แล้วอีกอย่างคนไทยมีวันหยุดน้อย ไม่เหมือนกับชาวต่างชาติที่เขามีวันหยุดยาวๆ
คนไทยก็เลยชอบอะไรที่สบายๆ ง่ายๆ”
ใช่แล้ว !!! การดำน้ำเป็นคอร์สราคาสูง การดำน้ำต้องเรียนเพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์ได้ มันใช่อย่างที่น้องจอยว่านั่นแหละ แล้วอย่างนี้เราจะเรียนดำน้ำกันทำไม ถ้าเราไม่ได้อะไร !!??
.......แล้วการเรียนดำน้ำครั้งนี้น้องๆ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครทั้ง
6 คน ได้อะไรกันบ้าง…….
ผู้เขียนขอนำเสนอผ่านแบบสอบถามที่ได้ให้ไป ในส่วนที่ 4 ข้อความคิดเห็น มาเผยแพร่ให้ทุกคนได้เห็นทัศนะคติของนักศึกษาด้วยกัน คำถามคือ
4.1
หลังจากเข้าร่วมโครงการ
ท่านคิดว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่มหาวิทยาลัยจะมีการเรียนเพื่อส่งเสริมความรู้ทางอาชีพในอุตสาหกรรมดำน้ำ
มีความจำเป็น
เหตุผลสรุปได้ดังนี้
(1)
เพราะว่าสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ ให้ประสบการณ์ใหม่ๆกับนักศึกษา
(2)
เพราะมีคนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าเกี่ยวกับอาชีพในธุรกิจดำน้ำ และยังไม่มีพื้นฐานด้านการดำน้ำ ดังนั้นการ บรรจุไว้การเรียนจะทำให้คนไทยรู้จักอาชีพนี้มากขึ้น
(3)
เพราะการดำน้ำเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้มาก จึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่นักศึกษาสาขาการท่องเที่ยว
และ สาขาอื่นๆ ต้องเรียนรู้
(4)
อยากให้ทุกคนได้เรียนรู้กับวิถีชีวิตใต้ท้องทะเล
ไม่มีความจำเป็น....................ไม่มีผู้ตอบ
มีหรือไม่มีก็ได้ ......................ไม่มีผู้ตอบ
แบบสอบถามดังกล่าว อาจเป็นการแสดงความคิดเห็นของจำนวนคนที่ไม่มาก แต่มันก็สะท้อนแล้วว่า การมองเห็นความสำคัญของเรื่องดำน้ำจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาได้เริ่มต้นเรียนดำน้ำด้วยตัวเอง
ดังนั้น
ไปดำน้ำกันเถอะ !!!!