ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คนไทยดำน้ำเป็น....แก้ปัญหาหลายต่อ ตอนที่ 1 ปัญหาเศรษฐกิจ

Diving marketing


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่ประเทศไทยมีจุดดำน้ำติดอันดับโลกเสมอมา แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์เต็มที่จากธุรกิจดำน้ำ กลับเป็น ชาวต่างชาติ

ส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมดำน้ำประเทศไทยนั่นเป็นของชาวต่างชาติไปแล้วมากกว่า 95% 

สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ คนไทยดำน้ำไม่เป็น จึงไม่ได้สนใจประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำ (มีข้อมูลหนึ่งบอกว่าคนไทยดำน้ำเป็นประมาณ 20,000 คน !!!)คนไทยท้องถิ่นที่ดำน้ำไม่เป็นแต่ประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำ จึงประกอบอาชีพอย่างเช่น คนขับเรือแม่บ้าน เป็นต้น  ทั้งๆที่อาชีพนักดำน้ำมืออาชีพได้เงินดีกว่าตั้งเยอะ  ไม่ว่าจะเป็น Divemaster 
หรือ ครูสอนดำน้ำก็ตาม 

สาเหตุที่สอง อาจเป็นเพราะประเทศไทยไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆกับธุรกิจดำน้ำโดยเฉพาะ  ไม่เหมือนประเทศมาเลเซีย อินโด ฟิลิปปินส์ ที่ออกกฎหมายปกป้องอาชีพ Divemaster ให้เป็นอาชีพสำหรับคนในประเทศเท่านั้น

ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อไม่มีคนไทยดำน้ำเป็นเพื่อเข้าไปประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำ  เจ้าของธุรกิจ
ชาวต่างชาติ จึงจ้างนักดำน้ำมืออาชีพชาวต่างชาติมาทำงานแทน  ชาวต่างชาติหลายคนที่ทำงาน
ก็ไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกกฎหมาย  แล้วอย่างนี้รัฐจะเก็บภาษีรายได้จากคนทำงาน
ได้อย่างไร   

ดังนั้นการที่คนไทยดำน้ำเป็นเพื่อประกอบอาชีพมากขึ้น จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ 3 เรื่อง
อย่างเห็นได้ชัดคือ 

- แก้ปัญหาการจ้างงานอย่างผิดกฎหมาย ไม่ต้องมี
ชาวต่างชาติที่แอบทำงานอย่างไม่มีใบอนุญาต 
เพราะเจ้าของธุรกิจสามารถจ้างคนไทยมาทำงานได้ และทำใบอนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติบางคนที่
ต้องการทักษะเฉพาะจริงๆ เช่น ทักษะด้านภาษา

- แก้ปัญหาการแย้งงานคนท้องถิ่น เพราะทะเลอยู่
ในประเทศไทยอยู่แล้ว หากคนรุ่นใหม่ที่มีบ้านติด
กับทะเล ไม่อยากมาหางานทำในกรุงเทพ เขาก็สามารถสร้างรายรับจากอาชีพนักดำน้ำที่มีรายได้
ดีกว่า หรือจะเปิดธุรกิจดำน้ำเองก็ยังได้

- แก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีรายได้  เมื่อคนไทยและ
ชาวต่างชาติทำงานอย่างถูกกฎหมาย ประเทศก็จะ
สามารถจัดเก็บภาษีรายได้เข้าระบบเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

.........................................

ติดตามตอนต่อไป

สามปัญหาถูกแก้ไข...เมื่อคนไทยดำน้ำเป็น

Post 28 Aug

เชื่อหรือไม่ว่า แค่เราดำน้ำเป็นก็สามารถแก้ไขปัญหาในประเทศไทยได้ถึง 3 เรื่อง คือ เศรษฐกิจ  สิ่งแวดล้อม  และสุขภาพอธิบายเพิ่มเติมดังนี้

1. เศรษฐกิจ  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อที่ประเทศไทยมีจุดดำน้ำติดอันดับของโลกเสมอมา แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์เต็มที่จากธุรกิจดำน้ำ กลับเป็น ชาวต่างชาติ
Diving marketing

ส่วนแบ่งการตลาดอุตสาหกรรมดำน้ำประเทศไทยนั่นเป็นของชาวต่างชาติไปแล้วมากกว่า 95% สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะ คนไทยดำน้ำไม่เป็น จึงไม่ได้สนใจประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำ (มีข้อมูลหนึ่งบอกว่าคนไทยดำน้ำเป็นประมาณ 20,000 คน !!!) คนไทยท้องถิ่นที่ประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำแต่ดำน้ำไม่เป็น จึงทำอาชีพอย่างเช่น คนขับเรือ แม่บ้าน เป็นต้น  ทั้งๆที่อาชีพนักดำน้ำมืออาชีพได้เงินดีกว่าตั้งเยอะ  ไม่ว่าจะเป็น Divemaster หรือ ครูสอนดำน้ำก็ตาม 

สาเหตุที่สอง อาจะเป็นเพราะประเทศไทยไม่ได้มีกฏเกณฑ์ใดๆกับธุรกิจดำน้ำโดยเฉพาะ  ไม่เหมือนประเทศมาเลเซีย อินโดฟิลิปปินส์ ที่ออกกฏหมายปกป้องอาชีพ Dive master ให้เป็นอาชีพสำหรับคนในประเทศเท่านั้น
 
ผลที่ตามมาก็คือ เมื่อไม่มีคนไทยดำน้ำเป็นเพื่อเข้าไปประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำ  เจ้าของธุรกิจชาวต่างชาติ จึงจ้างนักดำน้ำมืออาชีพชาวต่างชาติมาทำงานแทน  ชาวต่างชาติหลายคนที่ทำงานก็ไม่ได้มีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกกฏหมาย  แล้วอย่างนี้รัฐจะเก็บภาษีรายได้จากคนทำงาน ได้อย่างไร  

ดังนั้นการที่คนไทยดำน้ำเป็นเพื่อประกอบอาชีพมากขึ้น จะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ 3 เรื่องอย่างเห็นได้ชัดคือ 
 
- แก้ปัญหาการจ้างงานอย่างผิดกฏหมาย ไม่ต้องมีชาวต่างชาติที่แอบทำงานอย่างไม่มีใบอนุญาต เพราะเจ้าของธุรกิจสามารถจ้างคนไทยมาทำงานได้ และทำใบอนุญาตให้เฉพาะชาวต่างชาติบางคนที่ต้องการทักษะจริงๆ เช่น ทักษะด้านภาษา
- แก้ปัญหาการแย้งงานคนท้องถิ่น เพราะทะเลอยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว และหากคนรุ่นใหม่ที่มีบ้านติดกับทะเล ไม่อยากมาหางานทำในกรุงเทพ เขาก็สามารถสร้างรายรับจากอาชีพนักดำน้ำได้เช่นกัน
- แก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีรายได้  เมื่อคนไทยและชาวต่างชาติทำงานอย่างถูกกฏหมาย ประเทศก็จะสามารถจัดเก็บภาษีรายได้เข้าระบบเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน

2. สิ่งแวดล้อม
ทะเลเปรียบเหมือนออฟฟิศของนักดำน้ำ ถ้าทะเลเน่าจะมีใครที่ไหนอยากลงไปดำน้ำ และแน่นอนว่าธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปา ที่อยู่ใกล้แถวนั้นย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย
under water

เราได้ยินมากับหู น้องๆที่ไปดำน้ำด้วยกันบอกว่า ชาวต่างชาติ Dive Leader เขาเหยียบปะการัง !!!! ได้ยินแล้วเจ็บช้ำหัวใจกระซิกๆ รู้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลบอมบางขนาดไหนกว่าจะโตมาได้ถึงขนาดนี้ !!! แต่ชาวต่างชาติคนนั้นกลับเหยียบปะการังได้ลงอย่างไม่มีสำนึกของการเป็นนักอนุรักษ์  (แต่ชาวต่างชาติที่เขาระมัดระวังก็มีเช่นกันนะ ปกติของคนนั่นแหละมีทั้งดีและไม่ดี) 

ดังนั้นจึงคิดขึ้นมาว่า มันจะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถเป็นคนกำหนดสิ่งแวดล้อมของเราได้เอง  สามารถออกมามีปากมีเสียงที่จะดูแลปกป้องอนุรักษ์ทะเลไทยของเราเอง 
ปลา
ชาวต่างชาติที่มาหาเงินในประเทศไทยแล้วก็กลับประเทศของตัวเองไปอาจไม่สามารถให้คุณค่าอะไรกลับมายังทะเลบ้านเราได้มากนัก เพราะเขาไม่ได้อยู่ยาว อยู่แค่หาเงินช่วง High season

แต่ถ้าคนไทยเข้ามาทำอาชีพนักดำน้ำ เราอยู่ที่ประเทศไทยบ้านเราตลอดชีวิต พอเราทำงานหาเงินได้จากทะเล เราก็สามารถที่จะรวมกลุ่มกันออกไปเก็บขยะใต้ทะเล ปลูกปะการัง อะไรทำนองนี้ได้ ถ้าใครได้ลงไปดำน้ำจะรู้ว่าธรรมชาติใต้ท้องทะเลมันบอมบาง และ แข็งแกรงอย่างน่าอัศจรรย์มาก สิ่งมีชีิวิตใต้ทะเลไม่ได้ต้องการให้เราช่วยเหลือเขามากนัก เพียงแค่อย่าทำลายกันก็พอ 

สิ่งแวดล้อมจะอยู่ได้อย่างยั่งยืนถ้าคนที่สร้างรายได้จากธรรมชาติ เป็นคนที่ดูแลธรรมชาตินั้นด้วยตัวเอง


3. สุขภาพ
ระบบในร่างกายที่สำคัญที่สุดเพื่อการดำน้ำ คือ ระบบหายใจ และ ระบบหู  ดังนั้นคนที่มีปัญหาในระบบนี้จะต้องให้แพทย์เป็นคนยืนยันว่าเราสามารถดำน้ำได้หรือไม่ เพราะอาการของแต่ละคนหนักเบาไม่เท่ากัน  

จะเห็นได้ว่าร่างกายเป็นส่วนหลักสำคัญของกิจกรรมดำน้ำ  ดังนั้นถ้าเราไม่ใส่ใจดูแลร่างกายให้แข็งแรง  วันหนึ่งเราอาจหมดโอกาสที่จะดำน้ำก็ได้  

กิจกรรมดำน้ำไม่เกี่ยวข้องกับตัวเลขของอายุ  น้ำหนักตัว ขอเพียงแค่เราสุขภาพยังแข็งแรงอยู่ จะอายุเท่าไร น้ำหนักตัวเท่าใด สายตาสั้นแค่ไหน ก็กระโดดลงดำน้ำได้อย่างแน่นอน ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ 2 คน

คนแรก เป็นน้องที่จะมาฝึกงานคนหนึ่งรูปร่างอ้วน  แต่เพื่อให้ตัวเองได้ดำน้ำอย่างสะดวกสบายก็ไปลดน้ำหนักซะหุ่นดีเชียว (ย้ำอีกครั้งว่า น้ำหนักตัวไม่มีผลต่อการดำน้ำนะ จะอ้วนหรือผอมก็ดำน้ำได้ แต่น้องคนนี้เขามีแรงบันดาลใจอยากลดน้ำหนักเพื่อดำน้ำ) 

คนที่สอง คุณลุงอลัน จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อายุ 60 กว่าปี เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่คุณลุงก็ยังฟิต  ออกกำลังกายสม่ำเสมอให้ร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา พร้อมกลับมาประเทศไทยเพื่อดำน้ำได้ทุกปี
ตัวอย่างที่ยกมานั้นเพื่อจะบอกว่า กิจกรรมดำน้ำ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงของการเป็นคนสุขภาพดีก็ยังได้ ไปจนถึงเป็นแรงบันดาลใจให้คนอยากสุขภาพดีก็ยังมี

เพราะถ้าเราสุขภาพดีแล้ว ของขวัญที่ล้ำค่าคือการได้กระโดดลงใต้ท้องทะเล เพื่อแหวกว่ายได้อย่างอิสระ ไร้เสียงรถ เสียงผู้คน มีแค่เพียงเสียงลมหายใจของเรา ที่ทำให้เราได้มองเห็นตัวเองที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติได้อย่างแจ่มชัดที่สุด....

.....พอมองไปถึงอาชีพ เมื่อดำน้ำดูแลลูกค้านักท่องเที่ยวเสร็จ กลับขึ้นฝั่งพร้อมรายได้.....ก็เท่านั้นเอง

ดำน้ำเมืองไทยกันไหม....ในบ้านของเราเอง

https://www.facebook.com/BangkokSeaEvents
http://www.scubadivingkohchang.com/


PICT0047 2