ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รักเธอคนไทย ตอน Sacha Ulmer 2



                บทความก่อนหน้านี้เราได้ชี้แจ้งแถลงไขกันไปในเบื้องต้นแล้วว่า  “ทำไม...ค่าดำน้ำถึงมีราคาแพง”

                ในบทความนี้ผู้เขียนจึงมาเล่าให้ฟังกันต่อว่า  เราจะแก้ปัญหาเรื่องค่าดำน้ำแพงอย่างไรดี ???

                ..............

ถ้าค่าดำน้ำมีราคาแพง  เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนไทยเรียนดำน้ำกันน้อย.......... Sacha เลยโผงขึ้นมาว่า  “งั้นก็สอนฟรีซะเลยซิ !!!! “ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ  “โครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ  คนไทยทำได้"

                Sacha Ulmer เขาเป็นฝรั่งหัวใจใหญ่  เงินไม่ค่อยมีหรอก  แต่อยากจะสอนดำน้ำฟรีให้คนไทยลูกเดียว 

                ความคิดในการทำโครงการครั้งแรก  เขามีไอเดียเกิดขึ้นว่า  อยากให้คนกรุงเทพได้เห็นใต้ท้องทะเล  เพื่อให้เกิดการปกป้องทะเล  เพราะเขามองว่าคนกรุงเทพเป็นส่วนหนึ่งที่ทิ้งขยะลงทะเลเช่นกัน  ถึงแม้จะไม่อยู่ใกล้แต่ขยะที่ถูกทิ้งลงทะเลพวกเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง  ถ้าคนกรุงเทพไม่ได้เรียนดำน้ำแล้วจะสัมผัสกับทะเลจะรักทะเล จนเกิดความรู้สึกปกป้องหวงแหนได้อย่างไร  

คุยกันไปคุยกันมา  ประกอบกับการหาข้อมูลธุรกิจดำน้ำในประเทศไทยด้วยว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรแล้วบ้าง  

โอ้แม่เจ้า !!!!  

......ปรากฏว่าส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจดำน้ำในประเทศไทยเป็นของชาวต่างชาติถึง 95 % เป็นของคนไทยไม่ถึง 5 %  !!!!  ผู้เขียนเล่าข้อมูลนี้ให้ Sacha ฟัง  ปรากฏว่าเขามีอารมณ์อินมากกว่าผู้เขียนซะอีก  “95% farang , 5% Thai this is not normal , unfair for Thai people, we have to change this market for keep this money in Thailand and for Thai people...bla bla bla ฯลฯ ” (ถ้าใครเคยฟังเสียง Sacha จะรู้ว่าเวลาเขาพูดจะเสียงดังฟังชัดมาก  จนออกไปในอารมณ์ที่ว่า....นี่ไปโมโหใครมาหรือเปล่า....)

สุดท้ายเขาจึงฟันธงว่า  เรื่องเรียนดำน้ำต้องถูกบรรจุไว้ในระบบการศึกษา  เพื่อให้กลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศไทยสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งการตลาดและเก็บเงินก้อนนี้ไว้ในประเทศ

ด้วยสายเลือดของความเป็นครู  เพราะก่อนหน้าที่จะมาอยู่เมืองไทยซึ่งตอนนี้ยาวนานแล้วถึง 13 ปี Sacha เป็นครูในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขารู้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาคนได้คือ...ต้องเข้าไปสอน...เข้าไปให้เวลา...เข้าไปอธิบายให้ถูกต้อง...และสำหรับเรื่องดำน้ำกับคนไทยด้วยแล้วสิ่งที่ยากไม่ใช่การเรียนดำน้ำ  แต่มันคือทัศนะคติของคนไทยที่มีต่อเรื่องดำน้ำมากกว่า 

เขายกตัวอย่างเล่าให้ฟังว่า  ถ้าเด็กไปเล่นน้ำแล้วตกน้ำตาย  ผู้ใหญ่เห็นเลยกลัวแทนเด็ก  จึงออกนโยบายห้ามเด็กเล่นน้ำ  นี่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ  การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือต้องเข้าไปสอนเด็กให้ว่ายน้ำเป็น  ไม่ใช่ห้ามเด็กไม่ให้เล่นน้ำ 
เรื่องดำน้ำก็เป็นในแบบเดียวกัน  สิ่งสำคัญคือต้องมีคนให้โอกาสให้เด็กได้ลองทำ  ไม่ใช้ห้ามเด็กไม่ให้ทำ  แต่ปัญหาคือไม่มีใครยอมสละเวลาเข้าไปสอน  ดังนั้นเขาจะสอนเอง....

Sacha เขายินดีที่จะเข้าไปสอนดำน้ำให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายและหาผู้สปอนเซอร์มาสนับสนุนโครงการ

เข้าไปสอนฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย !!!  ใครๆก็ชอบอยู่แล้ว  แต่เรื่องหาผู้สปอนเซอร์นี่ซิงานเข้าอีกแล้วข้าพเจ้า

ปรากฏว่าบริษัทส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายในด้านนี้  จึงไม่สามารถให้งบสนับสนุนได้  (แต่เราก็ขอขอบคุณผู้สปอนเซอร์ใจดีที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์สำหรับนักศึกษาคะ)

เอาหล่ะคะ  ที่นี่ไม่มีเงินจากผู้สปอนเซอร์แน่ๆในปีนี้  Sacha  เลย บอกว่า “งั้นคิดค่าใช้จ่ายกับนักศึกษาเฉพาะค่าบัตรรับรองจาก PADI แล้วเขาจะสอนให้ฟรีจนถึงการเป็นนักดำน้ำมืออาชีพระดับ Dive master เพื่อนักศึกษาจะได้ประกอบอาชีพในธุรกิจดำน้ำได้”   มาอีกแล้ว  ฝรั่งหัวใจใหญ่คนนี้  จะสอนฟรีให้ได้ลูกเดียวเลย

ถ้ามองง่ายๆ ในมุมของฝ่ายได้รับ...ใครๆก็ชอบของฟรีกันทั้งนั้น  แต่ในมุมของคนทำงานหล่ะ...วิธีบริหารจัดการให้ตัวเองมีกำลังเงินนั่นเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันที่จะทำให้โครงการดีๆไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน เนื่องจาก Sacha พักอยู่ที่เกาะช้าง  เวลาเข้ามาสอนที่กรุงเทพเขาต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทางไปกลับเกาะช้าง , ค่าห้องพัก , ค่า taxi ในกรุงเทพ เป็นต้น และเมื่อนิสิตนักศึกษามาฝึกงานหรือเรียนดำน้ำต่อเนื่องที่เกาะช้าง  เขายังเช่าห้องพักไว้ให้อีก รวมถึงค่าน้ำมันเรือ , ค่าคนขับเรือ ที่เขาไม่ยอมเก็บเงินเพิ่มจากนักศึกษาด้วย

                ผู้เขียนแค่คิดว่าในเมื่อเขามี “ใจ” เพื่อคนไทยขนาดนี้แล้ว  เราก็น่าจะมีวิธีการบริหารจัดการให้เขาได้มีทุนทำประโยชน์เพื่อประเทศไทยด้วย....เช่นกัน

                 Sacha พูดเสมอว่า  เขาไม่ต้องการรวยจากการทำโครงการนี้  แต่เขาต้องการเห็นคนไทยกลุ่มรุ่นใหม่ New generation ได้เข้าไปสร้างรายได้ในธุรกิจนี้...เข้าไปเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจดำน้ำของ....”ประเทศไทย”....

.......ติดตามตอนต่อไป.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น