ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2559

อยากฝึกงานดำน้ำ แต่ไม่มีเพื่อนมา เต๋าช่วยได้ !!!


เต๋า-สุรศักดิ์  ชาติรักวงศ์ นิสิตสาขาการท่องเที่ยวและการโรงแรม คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ด้วยบุคลิกอย่างหนุ่มฟรุ้งฟริ้งจึงทำให้มองดูแล้วไม่น่าจะมาฝึกงานดำน้ำ แต่เต๋าก็มา !! แถมมาคนเดียวอีกด้วย !!!! โดยที่ไม่มีเพื่อนในแก๊งค์มาด้วย  นอกจากนั่นเต๋าไม่ใช่แค่มาฝึกงานให้ผ่านไปวันๆ เขายังมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ คอยถามตลอดว่ามีงานอะไรให้ทำบ้าง  ทำความสะอาดเรือ  เติมถังอากาศ ทำความสะอาดอุปกรณ์  ว่ายน้ำ 300 เมตร เต๋าก็ทำมาหมดแล้วด้วยความตั้งใจ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ทำความรู้จักกับหนุ่มฟรุ้งฟริ้งคนนี้ได้ยังไง

1.บุคลิกเต๋าไม่น่าจะมาฝึกงานไกด์ดำน้ำ ทำไมถึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ
เต๋า - ถ้าเอาคำตอบแบบง่ายๆ เลยเวลาใครถามก็จะบอกไปว่า เบื่อกรุงเทพแล้ว เบื่อรถติด เบื่อคนเยอะ เบื่อต่อแถวรถไฟฟ้าตอนชั่วโมงเร่งด่วน อยากไปใช้ชีวิต สโลว์ไลฟ์บนเกาะ อารมณ์ประมาณหนีรักมาพักร้อน 555555 และอีกอย่างไม่ต้องอยู่บ้านเพื่อนตั้ง 4 เดือนแหนะ อิอิ แต่ถ้าเอาเป็นแบบเป็นการเป็นงานหน่อยก็จะบอกว่า การมาฝึกงานครั้งนี้มีสิ่งที่น่าสนใจ คือได้ฝึกงานเป็นไกด์ดำน้ำ ซึ่งแตกต่างจากการฝึกงานที่อื่นๆ เพราะจะต้องทำงานโรงแรมก็ทำงานโรงแรม 4 เดือน หรือ ถ้าเป็นบริษัทท่องเที่ยวก็จะเป็นบริษัทท่องเที่ยวไปเลย 4 เดือน แต่ถ้าเลือกที่นี่ก็จะได้สลับกันอย่างละ 2 เดือน

2.เห็นบอกว่ามาคนเดียวแบบไม่มีแก็งค์มาด้วย มันดีหรือไม่ดียังไง
เต๋า - บอกก่อนว่าส่วนตัวเป็นคนค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง บางทีชอบอยู่คนเดียว สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้ และไม่ค่อยได้ทำความรู้จักกับใครใหม่บ่อยๆ ทีนี้พอมาฝึกงานที่เกาะช้าง การไม่ได้มากับกลุ่มเพื่อนสนิทของตัวเองก็ไม่ได้มีผลกระทบกับตัวผมสักเท่าไหร่นะ แถมอีกอย่างได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนต่างกลุ่มมากขึ้นเพราะบางคนที่มาฝึกงานที่เกาะช้าง ตอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแทบจะไม่ได้คุยกันเลยก็มี มันถือเป็นข้อดีใช่ไหม 5555


3.การฟังบรรยายจากโครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ คนไทยทำได้ ให้แรงบันดาลใจอะไรกับเราบ้าง
เต๋า - อย่างแรกเลย แรงบันดาลใจในเรื่อง การตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ 5555 เพระว่าตอนนั้นจำได้ว่ามีการพูดถึงแนวโน้มของนักท่องเที่ยวทั้งจากโซนไกลและโซนใกล้ประเทศเราจะเข้ามาเพิ่มมากขึ้น เพราะ ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายทั้งทางบกและทางน้ำ หรือตั้งแต่เหนือลงใต้ เรียกว่าเที่ยวได้เกือบทั้งปี
แรงบันดาลใจอีกอย่างก็คือ อยากเป็นไกด์ดำน้ำ เพราะซาช่าพูดอยู่เสมอว่า อาชีพทางทะเลทำรายได้ให้ประเทศไทยค่อนข้างสูง แต่อาชีพนี้ส่วนมากแล้วล้วนแต่เป็นชาวต่างชาติ อีกอย่างชาวต่างชาติพวกนี้ทำแบบผิดกฎหมายด้วย ซึ่งเราเป็นคนไทยแท้ๆแต่ทำไมไม่ได้มีส่วนร่วมในอาชีพนี้ละ ก็เลยอยากลองมาเรียนดำน้ำในครั้งนี้ดู

มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลม และสองเรา 55


4.อุปสรรคใหญ่ของการมาฝึกงานไกด์ดำน้ำคืออะไร และเต๋าจัดการมันอย่างไร
เต๋า - ระยะทาง 55555 ฟังไม่ผิดหรอก เพราะว่ามันไกลจากบ้านค่อนข้างมาก ต่อให้มีโลกส่วนตัวสูงแค่ไหนก็มีอารมณ์คิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวบ้าง แต่พอคิดถึงระยะทางที่ต้องนั่งรถกลับแล้ว ถึงกับหายอยากเลยทีเดียว บางคนบอกสมัยนี้นั่งเครื่องบินสิแปปเดียวก็ถึงแล้ว โถ่ๆๆๆ สนามบินที่นี้มีแค่ สายการบินเดียวและไม่มีรอบให้เลือกมากนัก แถมค่ารถไปสนามบินก็แสนแพง อีกทั้ง ทำงานวันหยุดก็น้อย ถ้าจะต้องกลับบ้านให้คุ้มที แทบจะต้องทำงานทั้งเดือนแบบไม่หยุดพักเพื่อแลกวันหยุดสะสมกลับบ้าน ซึ่งวิธีแก้ไขหรอ ก็มี เฟสไทมกลับไปที่บ้านบ่อยๆ ก็ช่วยให้หายคิดถึงบ้านและครอบครัวไปบ้างได้เหมือนกัน แต่อุปสรรคอันนี้มันมีข้อดีซ่อนอยู่นะ เพราะว่ามันทำให้เรารู้ว่าเราคิดถึงใครและอยากเจอใครมากที่สุด นั้นก็คือคนที่บ้านนั่นแหละ ซึ้งไหมละ 55555

5.การฝึกงานของเราจะมีทั้งรีสอร์ทและดำน้ำ การฝึกงาน 2 อย่างพร้อมกันอย่างนี้ ส่งผลดีหรือไม่ดี อย่างไร
เต๋า - พูดถึงผลดีก่อนละกัน โดยส่วนตัวได้ฝึกงานฝั่งรีสอร์ทก่อน พูดได้เลยว่ามันเป็นงานค่อนข้างหนักและมีรายละเอียดเยอะ ซึ่งมันก็ทำให้เราต้องตั้งใจทำงานและมีระเบียบวินัยในตัวเองไปโดยปริยาย อีกทั้งยังต้องเคารพกฎต่างๆด้วยเพราะเวลาทำผิดเราจะไม่ได้โดยคนเดียวจะโดนตั้งแต่หัวหน้า พี่ผู้ช่วย เลย แน่นอนว่ามันฝึกความอดทนได้ดีมาก ซึ่งก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่า ตัวเองจะมีความอดทนมากมายขนผ่าน 2 เดือนนั้นมาได้ พอมองย้อนกลับไปถือเป็นประสบการณ์ที่ดี อย่างหนึ่งเลย

พอมาฝึกงานดำน้ำดูเหมือนจะได้ผ่อนคลายมากขึ้นเล็กน้อยกว่าตอนฝึกแม่บ้าน แต่เหมือนกับสองเดือนที่ผ่านมาเราอยู่ในกฎที่แอบเคร่งครัดมาตลอด อย่างเช่น ตอนนั่งขายคอร์สอยู่ริมสระที่โรงแรม ถึงแม้ว่ามันจะดูว่างมากๆจนน่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสะเหลือเกิน แต่จิตใต้สำนึกมันก็ยังทำงานและคอยเตือนอยู่ตลอดว่ามันผิดกฎนะ หรือถ้าหัวหน้าแผนกต่างๆมาเห็นจะดูเราได้(ชุดหัวหน้าจะต่างจากพี่พนักงาน) ก็เลยทำให้เราได้โฟกัสกับการทักทายลูกค้าแทน หรือบางทีก็ศึกษารายละเอียดคอร์สเพิ่มเติมไว้เอาไว้ตอบลูกค้าได้คล่องขึ้น

6.เต๋าจะเอาทักษะทั้ง 2 อย่างที่ได้ฝึกงานมาไปต่อยอดอาชีพอย่างไรได้บ้าง
เต๋า - ในการฝึกงานดำน้ำมีทั้งการเรียนดำน้ำและการทำงานออฟฟิต แน่นอนว่าในอนาคตถ้าเราไม่ได้ไปเปิดโรงเรียนสอนดำน้ำ เราอาจไปเปิด Dive supply เอง หรืออาจจะเป็นบริษัททัวร์ ที่ทำ contact กับบริษัทดำน้ำ เรายังมีความรู้ทางด้านงานออฟฟิตที่ส่วนมากเป็นการทำสื่อต่างๆออกมาเพื่อโปรโมทสินค้า การทำ PR ในช่วงที่คู่แข่งหลากหลายและลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้นทำให้เราเรียนรู้ช่องทางในการที่จะทำให้ลูกค้าสนใจในสินค้าของเรา

7.เต๋าจะเอาทักษะการดำน้ำไปต่อยอดชีวิตยังไงบ้าง
เต๋า - ถ้ามีโอกาสในการเรียนได้เป็นถึงขึ้น Dive master แน่นอนว่าต้องมีทักษะการดำน้ำที่ดีประมาณหนึ่ง ถ้าถึงในตอนนั้นก็อาจจะเรียนเพิ่มเติมเพื่อให้ได้เป็นครูสอนดำน้ำหรือสามารถเปิดโรงเรียนดำน้ำได้เองให้มีการรับรองอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำธุรกิจ

8.ฝากบอกสำหรับเพื่อนที่อยากเข้าร่วมโครงการฯ แต่ยังโลเลเพราะไม่มีเพื่อนมา
เต๋า - ถ้ากลัวว่ามาฝึกงานที่นี่แล้วจะเหงาเพราะไม่มีเพื่อน ลืมไปได้เลยเพราะว่าที่นี่มีเพื่อนจากสถาบันอื่นๆ มาร่วมฝึกงานที่นี่ด้วย ดังนั้นคุณจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนต่างสถาบัน ได้เพื่อนใหม่ๆ ด้วย ดีไม่ดี อาจมีเพื่อชาวต่างชาติมาเรียนคุณก็จะได้ฝึกภาษาอังกฤษ ไปในตัวเหมือนกับผม
อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกเพื่อนๆก็คือ อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าร่วมโครางการก็เรื่องค่าใช้จ่าย  เพราะถูกลง (เยอะมาก) ปลื้มมากข้อนี้ เพราะแต่ละคอร์สที่เรียน ถ้าเป็นการ walk-in มาเองจะมีราคาที่สูงมาก  และถ้าคุณรักทะเล ทะเลเกาะช้างจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย

อย่ารอช้า โครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ คนไทยทำได้ ปีที่ 7/2562 รออยู่!! ใครอยากฝึกงานท่องเที่ยวดำน้ำอย่างเต๋า สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ => https://bangkokseaevent.wordpress.com/joinus/divingindustrythaiscandoit/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น