ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

กินหมึกยังไง ไม่ทำร้ายทะเล ?? Seafood to See life


สวัสดี  เพื่อนนักดำน้ำ

พรืดดดดด (ถอนหายใจแรงๆ) นี่ฉันรอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะเจ้าหนวด -_-!
เธอจะเอายังไงกับฉ้านนนน !!!
นานไปแล้วนะฉันเริ่มเบื่อแล้ว
.
.
.
เอ๊ะๆๆๆๆ นั่นๆๆๆ o_o มาแล้วๆ อีกหน่อยๆ ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเข้ามาอีกหน่อย โย่ว โย่ว ฉันเห็นตัวเธอแล้ว >_< มาเร็วๆ …….ติ๊กตอกๆๆๆ…….(ทุกอย่างเงียบ)
.
.
.
Yesss!! (เฮดังลั่นสะพานค่า><) ในที่สุดเธอก็ติดเบ็ดฉันจนได้ เย่อไป ยาวไปๆ ฮืมมมมม (ฮัมเพลงอยางมีความสุข)
เอ๊อะ! ……

และแล้วก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เจ้าหนวดหลุด อ๊ากกกกกกก!!!!

ฉันรอเธอมาตั้งนาน ทำไมเธอทำกับฉับแบบนี้ T-T โอเค ยอมแพ้ค่ะ ไปนั่งรอเป็นคนกินดีกว่า ชิ!! ระหว่างนั่งรอเราก็มาพูดถึงเรื่องเจ้าหนวดกันหน่อยดีกว่า  เจ้าหนวดหรือก็คือปลาหมึกนั่นเอง (ผู้เขียนชอบเรียกว่าเจ้าหนวดเพราะมันน่ารัก อิอิ ><) เป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง มีหนวดรอบปาก 4-5 หนวด มีปุ่มดูดเรียงเป็นแถวๆ ซึ่งมีหน้าที่จับเหยื่อป้อนเข้าปาก ปลาหมึกที่เราพบมากในไทย หลักๆก็จะมี 3-4 สายพันธุ์ (ปลาหมึกหอม, ปลาหมึกกล้วย, ปลาหมึกกระดอง, ปลาหมึกสาย) สามารถน้ำมาประกอบหารได้หลายอย่างเช่นเดียวกับปลา เรื่องรสชาตินี่ถึงกับต้องยกนิ้วให้ (ผู้เขียนชอบกินมากก ><) แต่คอลเลสเตอรอลสูงมากค่ะ T-T

อ้าว! เข้าเรื่องมาตั้งนานลืมบอกไปเลยว่าวันนี้ตัวผู้เขียนสิงสถิตอยู่ที่สะพานท่าเรือ ตามพี่มาตกปลาหมึกค่า จากที่เล่าข้างบนนั่นแหละค่ะ ตกไม่ได้ ไม่สิ ตกได้แต่หลุด เศร้าไปสิคะ T-T ไม่เก่งเหมือนพี่ ก็เลยต้องมานั่งแง่วอยู่แบบนี้ นั่นๆ คุณพี่มาล่ะพูดถึงก็มาเลย ถืออะไรมานะ อ้อออ!! ปลาหมึกๆ นางเอามาทำให้ลองกินแบบสดๆ (ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ) จิ้มกับวาซิบิ บอกได้คำเดียวค่าว่า มันเลิศมาก!!! O_O ทั้งสด ทั้งกรอบ ทั้งหวาน ได้ถึงอารมณ์สุดๆ >< 

แต่หลังๆเริ่มเฟล เพราะตกได้แต่หมึกตัวเล็กซึ่งเราก็ต้องปล่อยไป เพราะมันยังเล็กอยู่ จริงๆมันก็กินได้นะแต่เขาไม่นิยมนำมากินกันเพราะขนาดมันเล็กเกินไป ไซส์ยังไม่พอดีที่จะกิน

ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับการที่ตกได้แล้วต้องปล่อยไป เพราะตัวผู้เขียนนั้นไม่รู้ว่าปลาหมึกมันจะเจ็บมั้ย เพราะโดนเบ็ดเกี่ยวที่หนวดบ้าง ที่ตัวบ้าง แล้วปล่อยลงไปมันจะรักษาแผลได้มั้ย (ตอนปล่อยก็จะพูดตลอดว่าขอโทษนะเจ้าตัวเล็ก T-T) แต่พี่ของผู้เขียนบอกว่ามันไม่เจ็บ เมื่อมันกลับลงไปในน้ำมันจะสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้(ประมาณว่ารักษาในส่วนที่โดนเบ็ดเกี่ยวได้นั่นเอง) แต่ตัวผู้เขียนก็ยังกังวลอยู่ดี เลยไม่ค่อยได้ไปตกหมึกกับพี่สักเท่าไหร่ ถึงไปก็จะไม่เป็นคนตก ไปนั่งเล่นนอนเล่นอย่างเดียว สบายใจกว่า ><

อ้อ!! ข้อเสริมเรื่องของการเลือกกินปลาหมึกเพื่อที่เราจะได้ไม่เป็นสาเหตุในการทำลายหรือเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศใต้น้ำสักหน่อย เริ่มจากที่เราควรที่จะตกเอาแต่ปลาหมึกตัวใหญ่มากิน (ตามข้อมูลภาพด้านบน) ถ้าเจอปลาหมึกตัวเล็กก็ควรปล่อยมันไป แต่ทางที่ดีคือไปซื้อเอาตามร้านน่าจะดีกว่า เพราะที่ร้านจะขายแค่ปลากหมึกที่มีขนาดกำลังดี แต่เราก็ต้องเลือกอีกทีด้วยนะ ช่วยกันดูแลระบบนิเวศทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

ข้อห้าม!!! อย่ากินปลาหมึกไข่ เพราะจะทำให้การขยายพันธุ์ การเจริญเติบโตของเจ้าหนวดลดลงได้

รู้เรื่องกินหมึก
1.มีเยื้อหุ้ม : เลือกซื้อหมึกที่ยังคงมีเยื่อหุ้มเพื่อป้องกันการนำหมึกผ่านสารฟอกขาว
2.ลักษณะดี : ตาใส หัวและลำตัวติดกัน เนื้อแน่น หนวดหมึกควรมีสภาพสมบูรณ์
3.กลิ่นคาวธรรมชาติ : ต้องมีกลิ่นคาวตามธรรมชาติ  
4.ถุงน้ำหมึกไม่ขาด : ควรอยู่สภาพสมบูรณ์ ไม่แตกหรือฉีกขาด
                                                           
ไซส์ไหนที่เราควรกิน
 1. หมึกกล้วย ขนาดที่ควรบริโภค 9-10 เซนติเมตร
  2. หมึกหอม ขนาดที่ควรบริโภค 15-20 เซนติเมตร

หมึกทะเลที่ไม่ควรกิน คือ  หมึกไข่                                                                    
.
.
Writing by Mint        

วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

8 เรื่องดำน้ำที่ต้องรู้ไว้ตอบคำถามแม่ !!!


แม่ หนูจะไปฝึกงานที่บริษัทดำน้ำน่ะ!! พอสิ้นเสียงแค่นั่นแหละ แม่ก็ไม่รอช้าสรรหาคำถามร้อยแปดแล้วก็รัวๆๆ เข้ามาใส่ทันที แม่คิดว่าการดำน้ำมันน่ากลัว มันอันตรายมากๆ แม่ไม่อยากให้ลูกต้องไปเสี่ยง ความคิดของแม่มีแต่เรื่องที่ไม่ดีมากๆ กับการดำน้ำ และคำถามที่แม่ถามเน้นๆ ก็ถามเพื่อจะให้ลูกถอดใจ เลิกไปฝึกงานที่นั้น  โอ้โห่แม่!!!! นี่แม่จะถามอะไรขนาดนี้ หนูก็ท้อตั้งแต่แม่ตั้งคำถามแล้ว 555  เข้าใจจ้า ว่าเป็นห่วงลูกสาว 555  (เราขำมาก แต่!!! แม่ไม่ขำ) แม่มองหน้าเพื่อรอเอาคำตอบแบบจริงจังมากๆๆๆๆๆๆๆๆ  นี่เป็นคำถามที่ต้องตอบให้ดีเพราะมันสามารถตัดสินอนาคตความสามารถทางการดำน้ำของคุณได้เลยทีเดียวเชียว  เราก็เลยตั้งสติอธิบายไปว่า…….

1.ไปดำน้ำไม่เคยทำจะทำได้หรอ??  หรือ ถ้าไม่เคยดำน้ำ จะไปฝึกงานดำน้ำได้หรอ??
คำถามนี้เจอมากับตัวเลยค่า^^ ตอบให้ตรงนี้เลยค่ะ “ได้” สบายมาก เพราะถ้าคนที่เคยดำน้ำมาเค้าก็จะสอนอีกขั้นให้ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยดำน้ำมาก่อนเลยนั้นเค้าก็จะสอนตั้งแต่เริ่มต้นให้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะทำไม่ได้ มันไม่ยากอย่างที่คิด ไม่ต้องห่วง!! เค้าจะสอนจนคุณเชี่ยวชาญเลยล่ะ ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่เท่านั้นน่ะที่เรียนดำน้ำ เด็กอายุ 10 ขวบก็เรียนได้แล้ว

ฝึกที่สระว่ายน้ำจนชำนาญก่อนออกทะเล
2.ว่ายน้ำไม่เป็นจะทำได้หรอ??? 
ลืมตัว !!! ใช่แล้วตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น อ๊ากกกกก เราหายใจหนึ่งเฮือกและตอบแม่กลับไปว่า ถึงจะไม่เคยดำน้ำมาก่อน อีกอย่างคือว่ายน้ำไม่เป็นแต่!! ทุกอย่างมันเรียนรู้ได้  คนอื่นเขายังทำได้แล้ว เราหล่ะ!!!! ทำไมจะทำไม่ได้  มันเป็นเรื่องใหม่ก็จริง แต่ใช่ว่าจะไม่เคยทำแล้วจะทำไม่ได้หรอกน่ะ (ขอลองๆๆๆสักครั้ง)  อีกอย่างตอนนี้โครงการฯ เข้ามีการคัดเลือกก่อน ฉะนั้นถ้าหนูไม่ผ่านการคัดเลือก ก็ไม่ได้ฝึกหรอกแม่ แต่หนูอยากลองขอฝึกว่ายน้ำตั้งแต่วันนี้  จะได้หรือไม่ได้เดี๋ยวรู้กัน ... ขอเดินตามฝันตอนที่หัวใจและร่างกายยังไม่แรง 5555 อันนี้แม่จะอินหรือเปล่าไม่รู้ แต่หน้าเราต้องจริงใจสุดๆ

P.S. วีดีโอเพื่อนจาก ม.ศรีปทุม ว่ายน้ำไม่เป็น 6 คน แต่เรียนดำน้ำเรียบร้อยแล้วววว .... คลิก

3. ฝึกงานดำน้ำมันอันตรายมั้ย??
เชื่อว่า คำถามนี้ แม่ของทุกคนจะต้องถามแน่นอน ตอบแบบมั่นๆไปเลยค่ะ ว่าเค้ามีผู้เชี่ยวชาญสอนในทุกๆขั้นตอน ตั้งแต่ทักษะการว่ายน้ำ ลอยตัว ทักษะการดำน้ำ ไปจนกระทั่งการใช้อุปกรณ์ต่างๆ และที่สำคัญคือ ผู้เชี่ยวชาญจะคอยดูแลและสอนด้วยการประกบอย่างใกล้ชิดอีกด้วย  ครูผู้สอนต้องสอนให้เราทำได้ในสระว่ายน้ำก่อน ถึงค่อยออกทะเล ถ้าทำในสระไม่ผ่านเขาก็ไม่ให้เราออกทะเลเด็ดขาด อีกอย่างดำน้ำไม่ได้อันตรายอย่างที่คิดเพียงแค่เรา เรียนรู้วิธีการต่างๆ ให้เข้าใจอย่างถูกต้อง เหมือนหัดขับเครื่องบินครูต้องสอนจนมั่นใจก่อนถึงจะปล่อยบิน ไม่มีใครปล่อยมือใหม่ขับเครื่องบนคนเดียวหรอกจริงม่ะ และการดำน้ำยิ่งมีกฎชัดเลยว่า ห้ามดำน้ำคนเดียวเด็ดขาด ต้องมีคู่ Buddy อยู่ด้วยเสมอ คู่ Buddy จะเป็นครูสอนดำน้ำ ไกด์ดำน้ำ หรือ เพื่อนนักดำน้ำด้วยกันเอง กรณีมือใหม่จะต้องอยู่กับครูสอนดำน้ำเท่านั้น

ฝึกการติดตั้งอุปกรณ์ดำน้ำ และ
มีระบบ Buddy ช่วยกันเช๊คความถูกต้องก่อนลงดำน้ำ
4.จะทำได้หรอ ไม่กลัวหรอ??
คำถามนี้นี่แบบ”แม่!!! ดูถูกหนูหรอ 555+” ตอบแม่ไปเลยค่ะ เอาแบบมั่นหน้าเลยนะ “ทำได้ค่ะแม่ สบายมาก” หน้าตาให้5มั่นหน้าให้10ไปเลยค่า^^ เราต้องมั่นใจว่าเราทำได้ ไม่มีอะไรที่มันเกินความสามารถเราแน่นอน ถ้าคนอื่นทำได้เราก็ต้องทำได้ เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ แล้วก็ทำให้แม่เชื่อมั่นว่าเราทำได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าตอบว่าทำได้ แต่หน้านี่แบบเจี๋ยมเจี้ยม -_-! ต้องทำหน้ามั่นใจเข้าไว้ >< เดี๋ยวแม่ไม่ให้นะ 555+

5.แล้วมันยากมากมั้ย??
เป็นคำถามที่คุณจะต้องตอบแบบก้ำกึ่ง ประมาณว่าฉันไม่แน่ใจหรอกแต่ก็ตอบไปก่อน เพราะคุณก็ไม่เคยได้เรียนถูกมั้ย?? คุณจะรู้ได้ไงว่ามันยากหรือมันง่าย คุณก็ตอบแม่ไปเลยว่า “น่าจะยาก” เราต้องคิดว่ามันยากไว้ก่อน เพราะถ้าหากคุณคิดว่ามันง่าย เวลาคุณไปเจอจริงๆแล้วมันอาจจะไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดแล้วมันจะทำให้คุณท้อ อ้อ!! บอกแม่ต่อด้วยนะ ว่า ถึงจะยากแต่ก็ไม่เกินความสามารถของคุณหรอก เยปปป สวยไปอีกกก ^o^

6.ฝึกดำน้ำเขาจะให้ทำอะไรบ้าง ทำแค่ดำน้ำหรือจะได้ทำงานอย่างอื่นไหม????
ใครว่ามาฝึกงานดำน้ำจะได้ทำแค่ดำน้ำ งานออฟฟิศ งานด้านการขายก็ต้องทำน่ะ ต้องพูดกับลูกค้า ให้เขาสนใจไปดำน้ำกับเรา นี่ก็งานหนักเลยหล่ะ 555 แต่เป็นข้อดีสุดๆ เพราะหนูจะได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษจะได้ใช้คล่องๆๆ  ไม่ต้องเสียเงินแม่ไปต่างประเทศ เพราะฝึกงานดำน้ำก็ได้เจอลูกค้าต่างชาติอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

ฝึกภาษาอังกฤษโดยตรงกับลูกค้าต่างชาติ
7. ฝึกงานที่นั้นจบแล้ว จะทำงานอะไร????
เราก็เลยอธิบายไปว่า อย่างแรกนะแม่ ฝึกงานเสร็จแล้ว ถ้าชอบงานที่ทำตอนไปฝึก ก็อยากทำงานที่นั่นเลย แต่ถ้ามันไม่ใช่ก็ลองหางานที่ตัวเองชอบแนวใหม่ทำ แต่ตอนนี้ขอลองไปดำน้ำก่อนน่ะจ่ะคุณแม่ จุ๊บๆ ....

8.ฝึกงานดำน้ำไปแล้วได้อะไร??
คำถามยอดฮิตอีกเช่นกันค่ะ ดำน้ำแล้วได้อะไร??คำตอบก็ง่ายมากๆ ได้ดำน้ำไงคะ 5555+ นี่ไม่ได้ตอบแบบขำๆนะ เรื่องจริงเลย แต่นอกจากจะได้ดำน้ำแล้วคุณยังจะได้ประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความรู้และความสนุกสนาน คุณสามารถสนุกไปพร้อมๆกับการเรียนรู้ได้ ประสบการณ์ที่คุณได้สั่งสมและความรู้ที่คุณได้เรียนรู้จากการฝึกงานครั้งนี้ คุณสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ถ้าคุณเรียนได้ถึงระดับ Dive Mater คุณก็สามารถไปประกอบอาชีพไกด์น้ำได้ทั่วโลกเลยค่า แถมยังเรียนต่อเป็นครูสอนดำน้ำ รวมถึงเป็นเจ้าของธุรกิจดำน้ำได้อีกด้วย เป็นไงล่ะ !! มันเจ๋งช่ะ^o^


ตอบคำถามไป 8 ข้อ เหงืออาบยิ่งกว่าออกกำลังกาย และในที่สุดเราก็ได้มาฝึกงานดำน้ำ ได้ดำน้ำในทะเลสมใจ เยยยยยยย้  อ้อ !!! ชวนผู้ปกครองมาดูที่ฝึกงานด้วยกันเลยก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ท่านสบายใจได้นะคะ และอย่าลืมๆ !!!!!!!! ได้มาฝึกงานดำน้ำสมใจแล้วโทรหาท่านอัพเดทข่าวคราวให้ท่านสบายใจและมีส่วนร่วมกับความสำเร็จของการดำน้ำของเราด้วย  มีไหมคำถามที่ผู้ปกครองน่าจะถามเราอีก ??? หรือ ถ้าผู้ปกครองกำลังอ่านบทความนี่อยู่ บอกหน่อยคะ ว่าแต่ละท่านมีความกังวลต่อเรื่องอะไรบ้าง  เม้นท์บอกกันได้เลยยยยยจ้า
.
.
Writing by Yui and Mint

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

ถ้ารู้ว่าง่ายอย่างเงี๊ยะ เรียนตั้งนานแล้ว Open water diver !!


.......ภาค 1 สระว่ายน้ำ รายงานโดย....เต๋า-สุรศักดิ์  ชาติรักวงศ์......

เย้!! ในที่สุดเราก็ทำได้

วันนี้ผมจะมาเล่าถึงประสบการณ์การเรียนดำน้ำหลักสูตร Open Water Diver ว่าได้ไปเรียนอะไรมาบ้าง  ก่อนเรียนและหลังเรียนมีความรู้สึกต่างกันอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ให้ทุกท่านได้รู้ไปด้วยกันเลยว่าการเรียนดำน้ำหลักสูตร Open Water Diver นั้นมันง่ายมาก ใครๆก็ทำได้ !!!

ก่อนอื่นเลย ขออธิบายง่ายๆก่อน เผื่อบางท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าหลักสูตร Open Water Diver (OWD) คืออะไร เป็นหลักสูตรสำหรับคนที่ไม่เคยไปดำน้ำที่ไหนมาก่อนเลยและต้องการที่จะดำดิ่งลงไปสัมผัสโลกสีครามใต้ท้องทะเลเป็นครั้งแรก โดยจะมีการสอนทั้งวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ สัญญาณมือในการสื่อสารใต้ เป็นต้น โดยผู้ที่ผ่านหลักสูตรดำน้ำนี้จะได้รับ Certificate Card บัตรรับรองตลอดชีพนี้สามารถแสดงเพื่อเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ , ซื้อทริปดำน้ำได้ทุก ๆ ที่ทั่วโลกที่คุณต้องการพิสูจน์ความสวยงามของโลกสีครามในระดับความลึกสูงสุดไม่เกิน 18 เมตร

ทีนี้ก็ถึงเวลาที่ผมจะได้มาเล่าถึงประสบการณ์ตรงในการเรียนดำน้ำครั้งนี้กัน

กระโดดลงน้ำ ก็ต้องฝึกท่าที่ถูกต้อง !!
1 คืนก่อนเรียนดำน้ำครั้งแรกในชีวิต.......”จะทำได้ไหมเนี่ย” “ตื่นเต้นจังเลยย”  บลาๆๆๆ @%W%)@_^@T มีความคิดวิตกมากมายผ่านเข้ามาในหัวของผม ทั้งตื่นเต้นและกลัวปะปนกันไปหมด ก่อนจะหลับไปโดยไม่รู้ตัว เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ไม่รู้เป็นเพราะตื่นเต้นจนนอนต่อไม่ได้หรือเพราะกลัวจนนอนไม่หลับกันแน่ อิ____อิ

และแล้วก็ได้เวลา ...... 9 โมงเช้าตรงเป๊ง !!!!!

เดินมาถึงขอบสระ อย่างแรกที่ได้ทำคือการเรียนวิธีเตรียมถังอากาศ,การใส่ BCD เข้ากับตัวถัง รวมไปถึงการต่อเจ้าตัวเร็กกูเรเตอร์ เข้ากับถังและเสื้อ BCD ทำซ้ำๆอยู่ 5 รอบ สองสามรอบแรกก็มีลืมๆ ขั้นตอนบ้างสลับบ้างแต่พอรอบที่ 4 -5 รวมไปถึงรอบแถม ก็คล่องขึ้น

เมื่อจบการเตรียมอุปกรณ์สำหรับการเรียนดำน้ำเสร็จ ก็เริ่มลงสระกันเลยยยยย!!!!!!

ใครจะไปคิดว่าวิธีการใส่ชุดดำน้ำแบบครบองค์จะทุลักทุเลขนาดนี้ ทั้งหนัก ทั้งยืนไม่ถนัดเพราะว่าใส่ฟิน กว่าจะใส่ได้เล่นเอากินน้ำสระไปหลายอึก >..< ต่อมาเป็นการเรียนฝึกทักษะการควบคุมการลอยตัว พระเจ้า !!!! ทำไมหายใจเข้าหรือออกก็จะลอยขึ้นอย่างเดียว ห้าห้าห้าห้า จนคุณครูต้องช่วยจับตัวไว้ ก่อนจะค่อยๆจับจังหวะได้ พอหายใจเข้าก็ต้องลอยพอหายใจออกก็จะจม พุธโธ พุธโธ ไปอีก

..........มาถึงทักษะที่โดนเป่าหูมาว่าเป็นอะไรที่ยากที่สุดนั่นคือการเคลียหน้ากากนั่นเอง !!! เพื่อนเล่าว่าตอนเพื่อนเรียนสำลักน้ำกันใหญ่ เริ่มแรกจะเป็นการเรียนแบบไม่ถอดหน้ากากออกเปิดให้น้ำเข้ามาเล็กน้อย หายใจเข้าทางปาก และหายใจออกทางจมูก เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยย .ปุดๆๆๆๆๆๆๆๆเสียงอากาศออกจากแว่น พอลืมตา มหัศจรรย์มาก น้ำออกไปหมดแล้ว และที่สำคัญทำรอบเดียวผ่านนะจ๊ะ

............ส่วนแบบที่สองคือถอดหน้ากากออกมาเลยและใส่เข้าไป แน่นอนว่า น้ำนี่แน่นแว่นมาก วิธีเดียวกันเดิม หายใจเข้าทางปากหายใจออกทางจมูก เงยหน้าเล็กหน้า ปุดๆๆๆๆๆๆลืมตา ตายละยังมีน้ำอยู่ ทำแบบเดิมอีกรอบ ปิ๊งๆ น้ำออกหมดแล้ว ทั้งสองแบบพอทำเสร็จก็นึกในใจ หมูๆ ไม่เห็นจะยากเหมือนที่เพื่อนบอกเลย

...........ต่อมาคือการถอด/ใส่ BCD ในน้ำ ทุกย่างเป็นไปอย่างทุลักทุเล การถอดต้องปลดตะขอตั้งแต่บนลงมาข้างล่างและเริ่มถอดจากด้านซ้ายก่อนเพื่อไม่ไห้ตัวหายใจหลุดจากปากวนไปถึงด้านขาว เวลาใส่ให้ไล่สลับกันคือจากด้านขวาไปซ้าย ละติดตัวรัดจากล่างขึ้นบน

.............อย่างสุดท้ายคือการขออากาศจากเพื่อน เราต้องส่งสัญญาฯก่อนว่าอากาศเราหมดขออากาศจากเพื่อนได้ไหม ถ้าเพื่อนโอเคก็หยิบมาแล้วหายใจต่อและทำการพากันขึ้นสู่ผิวน้ำ เป็นอันจบพิธีในวันนี้ พอขึ้นมาจากสระ คิดว่าทุกอย่างที่ทำไปสิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสติตลอดเวลา ตั้งใจดูการสาธิตและทำตาม หากสงสัยให้ถามผู้สอนเลยหลังจากอธิบายก่อนลงใต้น้ำ เท่านี้ทุกอย่างก็ผ่านไปง่ายดายและไม่ยากอย่างที่คิด
..........ภาค 2 ออกทะเล รายงานโดย...มิ้นท์-อรุณกมล เจาะสุนทร.........

หลังจากนั้นวันถึง 2 วัน เค้าก็ให้ทำข้อสอบ ช่วยๆกันทำกับเพื่อนอีก 3 คน คะแนนออกมานี่แบบแทบเอาหน้ามุดดิน ผิดเยอะเชียวT-T พวกเราได้คะแนนกัน 78% จาก 100% เวลาทดสอบปฏิบัติกับทฤษฎีต่างกันเยอะอยู่นะ ในความคิดเราทฤษฎีจะมีเนื้อหาที่เยอะกว่า

หลังจากสอบเสร็จวันรุ่งขึ้นก็ได้ออกทะเลเลย^o^ ดำน้ำเก็บ 2 Dives แรกกันเลย ตื่นเต้นกว่าการเอาน้ำใส่หน้ากาก ก็ดำน้ำจริงนี่แหละ!! ตื่นเต้นมากกกก>< ลงไปครั้งแรกยังเคลียร์หูตัวเองไม่ได้เลยทำให้ปวดหูมากจนต้องขึ้นมาบนผิวน้ำก่อน แล้วก็ลงไปใหม่ คราวนี้มิ้นท์ทำได้ค่า เก๋ๆอ่แกรรรรร อิอิ^^ ลงไปครูสอนเค้าก็ให้ทำทักษะที่เรียนในสระว่ายน้ำในตอนแรก อย่างที่เพื่อนๆคิดแหละค่ะ เอาน้ำใส่หน้ากากเอย ทั้งครึ่งทั้งเต็ม ถอดหน้ากากเอย ปลดเร็กกูเรเตอร์เอย ทำทุกอย่าง แต่ขอบอกว่าสบายๆค่ะ เพราะเราฝึกมาแล้ว ใสๆเลยยยย><

จากนั้นก็ดำน้ำดูปลา ดูปะการัง บอกเลยว่าสวยมากกก ฟินเว่อร์>< มันทั้งสวย ทั้งเงียบ ให้ความรู้สึกที่สงบมาก Dives 2 ลงไปได้แบบสบายๆค่าาาา ^o^ เก่งค่ะ อิอิ>< ผ่านไปแล้วกับ 2 Dives แล้วก็ต้องเก็บอีก 2 Dives เพื่อให้ครบหลักสูตร Open Water Diver และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ได้ออกทะเลอีกครั้ง เพื่อเก็บ Dives ที่เหลือ วันนี้ไม่ตื่นเต้นแล้ว

แต่มีเรื่องติดขัดด้วย !!! คือลงไปฝึกทักษะเดิมนั่นคือเอาน้ำเข้าหน้ากากแบบเต็มแล้วเอาน้ำออกไม่ได้ จนครูสอนต้องพาขึ้นมา แล้วลงไปทำใหม่ ก็ทำได้ น่าจะเป็นเพราะเราลืมเอง แฮ่ๆๆๆๆ^^ (ดีนะไม่โดนครูดุเอา อิอิ) พอฝึกผ่านก็เหมือนเดิม ดำน้ำดูปลา ดูปะการัง ความรู้สึกที่ได้คือเหมือนเดิมเลย รักเธอไม่เปลี่ยนแปลง (โลกใต้ทะเล)


ถ้าถามถึงว่ามันยากมั้ย บอกได้คำเดียวว่าไม่เลย อยู่ที่เราจะสามารถจำเทคนิคต่างๆได้ดีแค่ไหน ?? ส่วนตัวนั้นคิดว่าครั้งแรก กับครั้ง2 ต่างกัน เพราะทำได้ดีขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น ไม่เกร็งเหมือนครั้งแรก ทำให้สามารถดูหรือศึกษาโลกใต้น้ำได้มากขึ้น ........อย่างที่บอกแหละ มันง่ายมาก ใครๆก็ทำได้^o^  

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

I'm Divers – เป็นไปได้ !! บ้านเกิดติดทะเล แต่ไม่เคยดำน้ำ


มิ้นท์ – อรุณกมล   เจาะสุนทร ลูกทหารเรือบ้านเกิดติดทะเล แต่ไม่เคยดำน้ำ Scuba สักครั้งในชีวิต  และการฝึกงานไกด์ดำน้ำ Divemaster ในโครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ  คนไทยทำได้ เป็นโอกาสครั้งแรกของเธอที่จะได้ลงไปทำความรู้จักกับทะเลบ้านเกิดของตัวเอง .... นี่คือ 7 คำถาม 7 คำตอบ ที่มิ้นท์อยากเล่าให้อ่าน

1. ทำไมเลือกฝึกงานไกด์ดำน้ำ ในโครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ คนไทยทำได้
มิ้นท์ - เพราะได้ฟังบรรยายจากโครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ คนไทยทำได้ ที่มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ ตอนแรกก็กำลังคิดอยู่ว่าจะเลือกฝึกงานที่ไหนดี แล้วมีที่นี่เข้ามาเป็นตัวเลือกพอดี รวมทั้งไม่อยากฝึกงานในกรุงเทพ อยากได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และพอได้ฟังการบรรยายก็คิดว่าที่นี่แหละตอบโจทย์เราได้ดีที่สุด เลยเลือกที่จะมาฝึกที่นี่

2. ตอนฟังบรรยายจากโครงการฯ ที่มหาวิทยาลัยได้แรงบันดาลใจอะไรบ้าง
มิ้นท์ -จากที่ได้ฟังการบรรยายวันนั้นแล้วรู้สึกว่าการดำน้ำเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับตัวเอง เป็นสิ่งใกล้ตัวที่รู้สุกว่า เอ๊ะ!! บ้านเราก็มีทะเล ทำไมเราถึงไม่เคยรู้ ไม่เคยได้ลอง  ก็เลยอยากเรียนรู้ อยากลอง อยากได้ประการณ์ใหม่ๆ เปิดมุมมองของตัวเอง แล้วคิดว่าเราน่าจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการฝึกงานที่นี่ได้เยอะแน่ๆ

3. บ้านอยู่ติดทะเล แต่ทำไมไม่เคยลงดำน้ำ
มิ้นท์ -เพราะว่าทะเลแถวบ้านส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ของข้าราชการทหาร จึงทำให้ไม่ค่อยมีกิจกรรมทางทะเลสักเท่าไหร่ บางหาดก็ไม่ได้เปิดให้เล่น กิจกรรมทางทะเลส่วนใหญ่คือการปลูกปะการังมากกว่า และเป็นทหารที่เป็นคนเอาลงไปปลูกเราจะปลูกแค่ข้างบน อ้อ!! แต่ตอนนี้มีหาดเปิดใหม่ “หาดน้ำใส” ซึ่งมีกิจกรรมรองรับคือ ดำน้ำ แต่เป็นการดำน้ำตื้น จากที่เล่าไปนั้นเลยทำให้ไม่เคยดำน้ำ แต่ถ้าถามว่าเคยมั้ย ก็เคยดำน้ำตื้นแบบบ้านๆอ่ะค่ะ อารมณ์แบบใส่แว่นก้มหน้าลงไปดู 5555+

4. ตอนนี้ได้มาฝึกงานไกด์ดำน้ำสมใจแล้ว มีอะไรที่เหมือนที่คิดไว้ และอะไรที่ได้เกินความคาดหมาย
มิ้นท์ - ถ้าถามว่ามีอะไรที่ตรงกับที่คิดไว้มั้ย?? มีสิ!!นั่นคือเรื่องของประสบการณ์ เพราะนี่แค่ฝึกได้แค่ 2 อาทิตย์ ยังรู้สึกว่าได้ประสบการณ์ใหม่ๆเยอะ แล้วเวลาอีกเดือนครึ่งที่เหลือล่ะ!! ประสบการณ์ที่จะได้รับคงรออยู่อีกเพียบ พูดแล้วก็ตื่นเต้น>< ส่วนสิ่งที่เกินความคาดหวังก็มีอยู่เยอะใช่ย่อย 555+ อย่างเช่นการทำงานในออฟฟิศ ตอนแรกไม่คิดว่าจะต้องทำด้วยคิดว่าต้องดำน้ำอย่างเดียว มันทำให้รู้สึกว่า เห้ยยย!! เจ๋งอ่ะ เหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เก๋ๆไปอีกค่ะ^o^ อีกเรื่องคือไม่คิดว่าจะเจอผู้ฝึกสอนที่เป็นกันเองและดูแลดีมากขนาดนี้ อีกทั้งยังให้ความรู้แบบเต็มที่ด้วย ตอนนี้คิดกับตัวเองว่าถ้าฉันไม่มาฝึกงานที่นี่ฉันจะได้เจออะไรแบบนี้มั้ย??

 5. ตั้งแต่ฝึกงานไกด์ดำน้ำมา ชอบงานหรือการฝึกส่วนไหนมากที่สุด
มิ้นท์ - แน่นอน!! คำตอบคือการดำน้ำ เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ไปอยู่อีกโลกหนึ่ง มันทั้งสวยงามทั้งสงบ นี่ถ้ามีเรื่องกลุ้มๆแล้วได้ไปดำน้ำ ก็คงทำให้หายกลุ้มได้เลยล่ะ^^

6. ตอนนี้ดำน้ำเป็นแล้ว จะเอาทักษะนี้ไปต่อยอดอะไรในชีวิตบ้าง
มิ้นท์ - ก็อาจนำไปใช้ในการฟื้นฟูโลกใต้ทะเล อย่างเช่น บ้านอยู่ติดทะเล เราก็สามารถที่จะไปช่วยเสริมสร้างโลกใต้ทะเลบ้าง อย่างการดำน้ำพาคนไปดูปะการัง เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับคนทั่วไปในเรื่องของการอนุรักษ์ทรัพยากรใต้น้ำ

7. ฝากบอกถึงเพื่อนที่กำลังสนใจอยากฝึกงานไกด์ดำน้ำเหมือนเรา ว่าทำไมเขาถึงต้องตัดสินใจมาฝึกงานกับโครงการอุตสาหกรรมดำน้ำ คนไทยทำได้
มิ้นท์ - ก็ไม่รู้ว่าจะฝากบอกอะไรเนาะ>< เพราะจากที่เล่าให้ฟังไปนั้น น่าจะทำให้คนที่กำลังสนใจอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เอางี้ดีกว่า!! ถ้าคุณคิดว่าคุณต้องการที่จะหาประสบการณ์ใหม่ๆ ต้องการเปิดมุมมองความรู้ของตัวเอง อยากเปิดโลกของตัวเองให้กว้างขึ้น คุณมาที่นี่คุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน และถ้าคุณไม่มาคุณจะรู้สึกว่าตัวคุณพลาดไปและน่าเสียดายมาก เมื่อโอกาสมาถึงคุณแล้ว คุณจะรออะไรล่ะคะ?? มาร่วมกันเติมประสบการณ์และความรู้ใหม่ๆด้วยกันนะคะ^o^
...........

มิ้นท์จะก้าวสู่การเป็น Divemaster ได้หรือไม่ .... ติดตามตอนต่อไป

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559

SEAFOOD to See life : เคยกินปลากระเบนกันไหม ??


สวัสดี  เพื่อนนักดำน้ำ

ขอยกคำพูดของ ดร. โจนัส ซอล์ก (Jonas Salk - ผู้ผลิตวัคซีนโปลิโอคนแรกของโลก) ที่เคยกล่าวไว้ว่า
“ถ้าพวกแมลงทั้งหลายหายไปจากโลกนี้ภายใน 50 ปี ทุกชีวิตบนโลกก็จะสิ้นไป แต่หากมนุษย์หากไปจากโลกนี้ ภายใน 50 ปี สิ่งมีชีวิตทุกชนิดก็จะขยายเผ่าพันธุ์ได้สมบูรณ์”

..... เห็นด้วยไหมกับคำพูดนี้ ??

ด้วยความที่เรา (ตัวผู้เขียนเองจ้า) มีบ้านติดทะเล เลยทำให้ลืมนึกถึงความสำคัญของระบบนิเวศใต้น้ำ เพราะอยากกินเมื่อไหร่ก็ได้กิน หาได้ง่ายๆ ทั้งแบบที่ซื้อตามร้านและตกปลาเอาเอง เมื่อก่อนก็ไม่เคยคิดอะไร คิดแค่อยากกินก็กิน อยากตกปลาก็ตก ทั้งตกแบบเล่นๆและตกเพื่อเอามากิน  ไม่สนว่าจะเป็นตัวเล็กตัวใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ปลาที่กำลังท้อง (ไม่รู้ว่าปลาเค้าเรียกว่าอะไร เลยคิดว่าปลาท้องเหมือนคน 5555)

จนกระทั่งวันหนึ่งได้ดูสารคดีเกี่ยวกับโลกใต้น้ำ จึงได้รู้ว่า ณ ปัจจุบันระบบนิเวศเสียสมดุลไปมาก จากสาเหตุต่างๆซึ่งสาเหตุเหล่านั้นเหมือนกับสิ่งที่เราเคยได้ทำ !!!!

ก็คิดว่า โอ้โหหห!!! นี่เราเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกใต้ท้องทะเลเสียหายขนาดนี้เลยหรอ ตั้งแต่นั้นมาก็หลีกเลี่ยงการตกปลามาตลอด แต่ถ้าหากไปตกปลาก็จะตกแต่ปลาที่กินได้แล้ว แบบไซส์กำลังพอดีและไม่ท้อง....

มีอยู่ครั้งหนึ่ง (ปีนี้เลย 2016)ไปตกปลาที่ทะเลกับพี่   ตกได้ปลากระเบน ตอนนั้นดีใจมาก เพราะอยากกินปลากระเบนพอดี (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวด้วย เพราะบางคนอาจไม่ชอบกิน) แล้วแบบมันเป็นไซส์ที่กำลังกินเลย ขนาดกว้างประมาณ 12 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ก็เย่อกันใหญ่ ลุ้นกันมากว่าจะหลุดมั้ย สุดท้ายไม่หลุด ร้องเฮทั้งลำเรือ พอเอาขึ้นมาได้หงายเงิบทั้งลำเรือสิคะ เพราะปลากระเบนท้องอยู่ T-T เศร้าไปค่ะ อดกิน จำใจต้องปล่อยเค้าไปพร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษขอโพยกันใหญ่ (ถึงกับต้องยกมือไว้ขอโทษ 555555) สุดท้ายวันนั้นกลับบ้านมือเปล่าไม่ได้ปลาสักตัว และท้ายสุดก็ต้องไปซื้อกิน (แล้วนี่เราจะเสียเวลาออกเรือไปเพื่อ ทั้งดำทั้งร้อน T-T)

อ้อ!! ลืมบอกคุณผู้อ่านไป ปลากระเบนที่ผู้เขียนได้ไปตกนั้นไม่ใช่ปลากระเบนราหูหรือปลากระเบนที่อยู่ในความคุ้มครองแต่อย่างใด มันเป็นปลากระเบนชายธงทอง ที่สามารถนำมากินได้ และยังคงมีอยู่จำนวนมากในท้องทะเล (แต่พลาดตรงที่ปลากระเบนท้อง T-T)






















ถ้าคุณผู้อ่านอยากลองลิ้มชิมรสชาติของปลากระเบน  ตัวผู้เขียนบอกเลยว่าต้องเลือกกินปลากระเบนที่ไม่ใช่สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธ์ รวมถึงสัตว์คุ้มครอง  เช่น ปลากระเบนนก ปลากระเบนทอง ปลากระเบนชายธง 

ปลากระเบนที่เราไม่ควรกินเลยคือ ปลากระเบนราหูนั่นเอง เพราะมันเริ่มที่จะเหลือน้อยเต็มทีแล้ว พูดง่ายๆคือใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว แต่เอาเข้าจริงผู้คนที่กินปลากระเบนเขาจะไม่นิยมกินปลากระเบนราหูอยู่แล้ว เรียกว่าแทบไม่กินเลยก็ว่าได้ ที่กินกันมากๆคือ ปลากระเบนนก

แต่ถึงอย่างไร ตอนนี้ตัวผู้เขียนเองก็หันมากินสิ่งที่มีรสชาติใกล้เคียงกันอย่างเนื้อไก่ฉีก เพราะเวลาที่เอาปลากระเบนชายธงทองมาผัดให้แห้ง ไม่ว่าจะผัดเผ็ดหรือผัดกระเทียม รสชาติและหน้าตามันจะคล้ายผัดเผ็ดไก่ฉีกหรือไก่ฉีกผัดกระเทียม ซึ่งมันทำให้เราได้รสชาติที่เหมือนกับปลากระเบน โดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปกินสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ และยังทำให้เราได้อนุรักษ์ระบบนิเวศใต้ท้องทะเลเอาไว้อีกด้วย


และถ้าหากเราทำได้อย่างในข้างต้นที่กล่าวมานั้นก็จะทำให้ระบบนิเวศน์ใต้น้ำมีความสมดุลมากขึ้น เพราะจะเกิดห่วงโซ่อาหารที่ทำให้สัตว์น้ำทั้งหลายได้เจริญเติบโตและขยายพันธุ์ต่อไปได้เรื่อยๆตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น
.
.
ข้อมูลอ้างอิงจาก : จากเล สู่ จาน Greenpeace และ กรมทรัพยากรธรรมชาติและชายฝั่ง
เขียนโดย : น้องมิ้นท์ - อรุณกมล      เจาะสุนทร
เรียบเรียง : เจนจิฬา  โชติประทุม